วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีในการนำเสนองาน1

เทคโนโลยีสำหรับนำเสนองาน

เทคโนโลยีสำหรับนำเสนองาน มีดังนี้



1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ได้แก่ เครื่องมือ อุปกรณ์ในการนำเสนองาน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อสำหรับการแสดงผล ผู้นำเสนอจะต้องเลือกใช้อุปกรณ์เหล่านี้ให้ตรงกับการใช้งาน หรือออกแบบสื่อที่ต้องใช้ประกอบกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างลงตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้

   1.1 เครื่องฉายภาพสามมิติ (Visualizer) เป็นเครื่องมือนำเสนองาน ทำหน้าที่ขยาย โดยฉายจากภาพของจริง ส่งไปปรากฏบนจอรับภาพ โดยจะต้องทำงานร่วมกับโพรเจกเตอร์และจอรับภาพ

เครื่องฉายภาพสามมิติ


   1.2 คอมพิวเตอร์ (Computer) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้นำเสนอกับเครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ โดยคอมพิวเตอร์สามารถนำเสนอข้อมูลได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 
ข้อความเสียง รูปภาพ แผนภูมิ แผนภาพ ภาพเคลื่อนไหวที่เป็นวีดิทัศน์ แอนิเมชัน ดังนั้นคอมพิวเตอร์จะต้องมีความพร้อมในการรับรองการนำเสนอทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต้องใช้มีดังนี้
       1) เครื่องอ่านซีดีรอมหรือวีดีรอม (CD/DVD ROM)
       2) การ์ดรีดเดอร์ (Card Reader)
       3) พอร์ตยูเอสบี (USB)
       4) การ์ดเสียง (Sound Card)
       5) การ์ดจอ (VGA Card)

  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้นำเสนออาจจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ที่มีความสามารถทำงานได้รวดเร็ว หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึก (Note Book) ที่เคลื่อนย้ายสะดวก

   1.3 โพรเจกเตอร์ (Projector) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกำเนิดภาพอื่นๆ โพรเจกเตอร์เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในหน่วยงานราชการ สถานศึกษา สำนักงานหรือบริษัทเอกชน เทคโนโลยีของโพรเจกเตอร์ที่นิยมใช้มีหลายระบบ ซึ่งแต่ละระบบก็มีข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกัน ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ดังนี้
โพรเจกเตอร์
       1) ระบบแอลซีดี (LCD : Liquid Crystal Display) เป็นการทำงานจากผลึกเหลว เป็นสารอินทรีย์ที่ใสเหมือนแก้ว เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงจากภายนอก จะบิดตัวเพื่อให้แสงลอดออกมาเป็นมุมต่างๆ การทำงานใช้ไฟฟ้าน้อย มีจุดเด่นคือ เครื่องสามารถปรับขนาดให้เล็กลงได้ แต่มีความสว่างน้อย เหมาะสำหรับในที่ที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีจุดอ่อนคือ การสะสมความร้อนและอายุการใช้งานของผลึกเหลว เนื่องจากจะเสื่อมง่ายเมื่อได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานาน
       2) ระบบดีแอลพี (DLP : Digtital Light Processing) หลักการทำงานคือ การใช้ชิปขนาดเล็กที่ภายในมีส่วนประกอบเป็นกระจกขนาดเล็กมาก เมื่อได้รับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ ชิปตัวนี้จะสั่งให้กระจกขยับบิดเอียงเป็นมุมเปิดและปิดแยกกันแต่ละตัวโดยอิสระ ในระบบมีหลอดไฟที่มีความสว่างสูง มี 3 สี ได้แก่ เขียว แดง และน้ำเงิน แสงที่สะท้อนออกมาจากกระจกจะถูกรวมเป็นภาพเพื่อส่งผ่านเลนส์ไปยังจอภาพ ระบบนี้จึงคมชัดมากและมีความร้อนสะสมน้อย ไม่เหมือนระบบแอลซีดี

  1.4 จอรับภาพ (Screen) เป็นอุปกรณ์สำหรับรับภาพฉายที่มาจากโพรเจกเตอร์ เครื่องฉายสไลด์ จอรับภาพจะมีคุณสมบัติในการสะท้อนและเกลี่ยแสงไม่ทำให้เกิดแสงจ้า หรือสะท้อนแสงจนรบกวนสายตาผู้ชม การนำเสนอจึงต้องตรวจสอบว่า จอภาพที่ใช้เป็นแบบดึงหรือแบบแสดงเลื่อนจอภาพด้วยไฟฟ้า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสร้างความมั่นใจให้กับการนำเสนอ

จอรับภาพแบบติดผนัง

  1.5 กระดานอัจฉริยะ (Interactive White Board) เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศหนึ่งที่ถูกนำเข้ามาใช้เพื่อช่วยในการจัดการนำเสนอ ลดบทบาทของชอล์ก กระดานดำ จนถึงไวต์บอร์ด ซึ่งเป็นสื่อพื้นฐาน การใช้กระดานอัจฉริยะ ต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์อื่นร่วมเป็นองค์ประกอบด้วย คือ เครื่องคอมพิวเตอร์  โพรเจกเตอร์ และซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของกระดานอัจฉริยะ
กระดานอัจฉริยะ
   1.6 เมาส์ (Mouse) เป็นอุปกรณ์สำหรับการชี้ตำแหน่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อทำให้สายตา หรือความสนใจของผู้นำเสนอนั้นเคลื่อนไหวตามตัวชี้เมาส์ เช่น ในการชี้ตำแหน่งไปที่ตาราง ตัวเลขที่สำคัญจากการทดลอง หรือการรายงานการนำเสนอ จึงมีการพัฒนาเมาส์เพื่อการนำเสนอที่แตกต่างจากเมาส์ที่ใช้ในการทำงานปกติ ดังนี้
       1) รีโมตเมาส์ หรือเมาส์พรีเซนต์ (Persent Mouse) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการนำเสนอแบบไร้สาย ซึ่งใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ เมาส์พรีเซนต์มีปุ่มกดเพื่อส่งสัญญาณคลื่นความถี่สั้นหรือบลูทูธไปที่เครื่องรับผ่านพอร์ตยูเอสบี เพื่อให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล
รีโมตเมาส์ หรือเมาส์พรีเซนต์
       2) แอร์เมาส์ (Air Mouse) เป็นเมาส์ชนิดไร้สาย สามารถทำงานในระยะไกล เช่น ห้องประชุม สามารถบังคบควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เหมือนตัวชี้เมาส์ปกติ ทำให้สามารถนำเสนอโปรแกรมประยุกต์ การลากแล้วปล่อย การคลิก ย่อขยายงานบนหน้าจอโพรเจกเตอร์ที่ยู่ด้านหน้าห้องประชุมได้ตามต้องการโดยไม่ต้องเดินกลับมาบังคับเมาส์พอยเตอร์ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
แอร์เมาส์ 
  1.7) ไมโครโฟน (Microphone) เป็นอุปกรณ์ในการทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งการใช้งานไมโครโฟนนั้น ต้องมีเครื่องขยายเสียงและลำโพงร่วมด้วย ไมโครโฟนมีหลายลักษณะ ดังนี้
       1) ไมโครโฟนแบบมีสาย ซึ่งอาจจะเป็นแบบสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ หรือเป็นแบบติดตั้งอยู่กับที่บนโต๊ะหรือขาตั้งสูง โดยมีสายสัญญาณเชื่อมต่อกับเครื่องขยายเสียง การนำเสนอแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนองานที่เป็นทางการ เน้นการบรรยาย ไม่มีกิจกรรมเคลื่อนไหว 
ไมโครโฟนตั้งโต๊ะสำหรับคอมพิวเตอร์
  
       2) ไมโครโฟนแบบไร้สาย มีหลายลักษณะตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนี้
  • ไมโครโฟนแบบติดตามตัว ซึ่งอาจเป็นแบบคาดไปพร้อมกับศรีษะ หรือเหน็บบริเวณปกเสื้อ แล้วต่อสายสัญญาณกับเครื่องส่งสัญญาณวิทยุขนาดเล็กที่ติดอยู่ที่เข็มขัด ไมโครโฟนชนิดนี้จะสร้างความคล่องตัวให้กับผู้นำเสนอและสามารถจัดกิจกรรมต่างๆได้อย่างอิสระ 



ไมโครโฟนไร้สายแบบสวมศรีษะ
  • ไมโครโฟนสำหรับถือ เป็นไมโครโฟนไร้สายที่ต้องทำงานร่วมกับเครื่องรับสัญญาณ สามารถเคลื่อนที่ จัดกิจกรรมไปรอบๆ บริเวณห้องนำเสนอได้แต่มีข้อจำกัด คือ ต้องใช้ มือจับไมโครโฟนอย่างน้อย 1 ข้าง ซึ่งอาจจะทำให้บทบาทบางอย่างขาดหายไปหรือเกิดอุปสรรค


ไมโครโฟนไร้สายสำหรับถือ


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น